undertone ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร
ความหมายของคำว่า undertone ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ undertone ใน ภาษาอังกฤษ
คำว่า undertone ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง สีอ่อน, สี, สีพื้น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง
ความหมายของคำว่า undertone
สีอ่อนverb |
สีnoun |
สีพื้นnoun |
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
" The fact is, " began Mr. Marvel eagerly in a confidential undertone. " ความจริงก็คือ" นายมาร์เวลเริ่มแผ่วกระหายในที่เป็นความลับ |
When you read the Bible “in an undertone,” it will help you to fix attention on portions that are especially useful and encouraging to you at that moment. เมื่อ คุณ อ่าน คัมภีร์ ไบเบิล โดย “ออก เสียง เบา ๆ” นั่น จะ ช่วย ให้ คุณ จดจ่อ อยู่ กับ ส่วน ที่ เป็น ประโยชน์ และ หนุน ใจ คุณ เป็น พิเศษ. |
But his delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night. แต่ ความ ปีติ ยินดี ของ เขา อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา และ เขา อ่าน พระ บัญญัติ ของ พระองค์ ด้วย เสียง แผ่ว เบา ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน. |
* “Happy is the man . . . [whose] delight is in the law of Jehovah,” states Psalm 1:1, 2, “and in his law he reads in an undertone day and night.” * บทเพลง สรรเสริญ 1:1, 2 กล่าว ว่า ‘ความ สุข ย่อม มี แก่ ผู้ ที่ ยินดี ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา; และ เขา คิด รําพึง อยู่ ใน พระ ธรรม ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.’ |
Upon appointing Joshua to lead the nation of Israel, Jehovah God told him: “This book of the law should not depart from your mouth, and you must in an undertone read in it day and night, in order that you may take care to do according to all that is written in it; for then you will make your way successful and then you will act wisely.” เมื่อ พระ ยะโฮวา พระเจ้า แต่ง ตั้ง ยะโฮซูอะ ให้ เป็น ผู้ นํา ชาติ อิสราเอล พระองค์ ตรัส สั่ง ท่าน ว่า “หนังสือ กฎหมาย นี้ อย่า ให้ ขาด จาก ปาก ของ เจ้า; แต่ เจ้า จง ตรึกตรอง ใน ข้อ กฎหมาย นั้น ทั้ง วัน และ คืน, เพื่อ เจ้า จะ ได้ รักษา ประพฤติ ตาม สรรพสิ่ง จารึก ไว้ ใน กฎหมาย นั้น; แล้ว ทาง ที่ เจ้า ดําเนิน ไป นั้น จะ มี ความ เจริญ, ถึง กับ สําเร็จ ประโยชน์.” |
Now, as it turns out, I'm a neuroscientist, so I knew that the memory of that person and the awful, emotional undertones that color in that memory, are largely mediated by separate brain systems. จนบัดนี้ ผมกลายเป็นนักประสาทวิทยา ผมจึงได้รู้ว่า ความทรงจําเกี่ยวกับ 'คนนั้น' กับ ความรู้สึกเลวร้าย ที่ปรุงแต่งความทรงจํา แท้จริงแล้ว ควบคุมโดยระบบสมองคนละส่วน |
You will also be acting in harmony with this command given long ago to the Israelite leader Joshua: “This book of the law should not depart from your mouth, and you must in an undertone read in it day and night, in order that you may take care to do according to all that is written in it; for then you will make your way successful and then you will act wisely.” —Joshua 1:8. คุณ จะ ปฏิบัติ สอดคล้อง กับ พระ บัญชา นี้ ที่ ทรง ให้ ไว้ กับ ยะโฮซูอะ ผู้ นํา ของ ชน ยิศราเอล นาน มา แล้ว ที่ ว่า “หนังสือ กฎหมาย นี้ ไม่ ควร ให้ ขาด จาก ปาก ของ เจ้า และ เจ้า ต้อง อ่าน ออก เสียง เบา ๆ ทั้ง กลางวัน กลางคืน เพื่อ ว่า เจ้า จะ ได้ ทํา ตาม สิ่ง ที่ เขียน ไว้ นั้น ทุก ข้อ ทุก ประการ เพราะ ถ้า เจ้า ทํา อย่าง นั้น เจ้า จะ บรรลุ ผล สําเร็จ และ เจ้า จะ ปฏิบัติ อย่าง สุขุม รอบคอบ.”—ยะโฮซูอะ 1:8, ล. ม. |
If you are one whose ‘delight is in the law of Jehovah, and in his law you read in an undertone day and night,’ then it can also be said of you: “He will certainly become like a tree planted by streams of water, that gives its own fruit in its season and the foliage of which does not wither, and everything he does will succeed.” ถ้า คุณ เป็น คน หนึ่ง ซึ่ง ‘ยินดี ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา และ อ่าน บัญญัติ ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน ด้วย การ ออก เสียง เบา ๆ’ แล้ว จะ มี การ พูด ถึง คุณ เช่น กัน ว่า “เขา เป็น ดุจ ดัง ต้น ไม้ ที่ ปลูก ไว้ ริม ทาง น้ํา ซึ่ง เกิด ผล ตาม ฤดู กาล ใบ ก็ ไม่ รู้ เหี่ยว แห้ง และ บรรดา กิจการ ที่ เขา กระทํา นั้น ก็ เจริญ ขึ้น.” |
This book of the law should not depart from your mouth, and you must in an undertone read in it day and night, in order that you may take care to do according to all that is written in it; for then you will make your way successful and then you will act wisely.” หนังสือ กฎหมาย นี้ ไม่ ควร ให้ ขาด จาก ปาก ของ เจ้า และ เจ้า ต้อง อ่าน ออก เสียง แผ่ว เบา ทั้ง กลางวัน กลางคืน เพื่อ ว่า เจ้า จะ ได้ ทํา ตาม สิ่ง ที่ เขียน ไว้ นั้น ทุก ข้อ ทุก ประการ เพราะ ถ้า เจ้า ทํา อย่าง นั้น เจ้า จะ บรรลุ ผล สําเร็จ และ เจ้า จะ ปฏิบัติ อย่าง สุขุม รอบคอบ.” |
When you read about them, you will often read about them with an undertone of reverence and admiration, because they are the most integrated and the largest of all the Mexican organizations, and, many people argue, the world. เมื่อคุณอ่านเรื่องราวของพวกเขา คุณจะอ่าน เรื่องราวของพวกเขาได้อยู่บ่อยๆ ที่แฝงไว้ด้วยความเคารพนับถือ และความชื่นชม เพราะว่าพวกเขา เป็นองค์กรที่มีการผสมผสานกันมากที่สุด และใหญ่ที่สุด ขององค์กรเม็กซิกันทั้งหมด และคนจํานวนมากอาจโต้แย้งได้ว่า ของโลก |
(Deuteronomy 17:18, 19) And Joshua was commanded to read the scriptures “in an undertone”—that is, to himself, with a soft voice—“day and night.”—Joshua 1:8. (พระ บัญญัติ 17:18,19) และ ท่าน ยะโฮซูอะ ได้ รับ พระ บัญชา ให้ อ่าน พระ คัมภีร์ ด้วย “เสียง เบา ๆ”—นั่น คือ อ่าน ให้ ตัว เอง ได้ ยิน ด้วย การ ออก เสียง แผ่ว ๆ—“ทั้ง กลางวัน กลางคืน.”—ยะโฮซูอะ 1:8, ล. ม. |
As a person progresses in learning precious Bible truths, he may become more eager to improve his reading ability so as to experience the joy of reading God’s Word “in an undertone day and night.” —Ps. เมื่อ คน เรา ก้าว หน้า ใน การ เรียน รู้ ความ จริง ที่ ล้ํา ค่า จาก คัมภีร์ ไบเบิล เขา ก็ อาจ กระตือรือร้น มาก ขึ้น ที่ จะ ปรับ ปรุง ความ สามารถ ใน การ อ่าน เพื่อ จะ ประสบ ความ ยินดี ใน การ อ่าน พระ คํา ของ พระเจ้า “ด้วย เสียง แผ่ว เบา ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.”—เพลง. |
'UNimportant, of course, I meant,'the King hastily said, and went on to himself in an undertone, 'ไม่สําคัญของหลักสูตรที่ฉันหมายความว่า ́พระมหากษัตริย์ทรงเร่งรีบกล่าวและไปในตัวเองใน |
16 Psalm 1:2, 3 says of the godly man: “His delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night. 16 บทเพลง สรรเสริญ 1:2, 3 กล่าว ถึง บุคคล ที่ ยําเกรง พระเจ้า ว่า “ความ ยินดี ของ ผู้ นั้น อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา; และ เขา คิด รําพึง อยู่ ใน พระ ธรรม ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน. |
But his delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night. แต่ ความ ปีติ ยินดี ของ เขา อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา และ เขา อ่าน พระ บัญญัติ ของ พระองค์ ด้วย ออก เสียง แผ่ว เบา ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน. |
“Happy is the man . . . [whose] delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night.” —PSALM 1:1, 2. “ความ สุข ย่อม มี แก่ . . . ผู้ ที่ ยินดี ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา; และ เขา คิด รําพึง อยู่ ใน พระ ธรรม ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.”—บทเพลง สรรเสริญ 1:1, 2. |
The psalmist sang: “Happy is the man that has not walked in the counsel of the wicked ones, . . . but his delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night.” ผู้ ประพันธ์ เพลง สรรเสริญ ร้อง เพลง ดัง นี้: “ความ สุข ย่อม มี แก่ ผู้ ที่ ไม่ ดําเนิน ตาม คํา ชักชวน ของ คน ชั่ว . . . ความ ยินดี ของ ผู้ นั้น อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา; และ เขา คิด รําพึง อยู่ ใน พระ ธรรม ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.” |
When possible, during periods of personal study and meditation, we may read “in an undertone,” sounding out the words. หาก เป็น ไป ได้ ใน ช่วง ที่ ศึกษา ส่วน ตัว และ คิด รําพึง เรา อาจ อ่าน “ด้วย เสียง แผ่ว เบา” หรือ อ่าน ออก เสียง. |
Read the Law in an undertone (8) อ่าน กฎหมาย และ ใคร่ครวญ (8) |
This book of the law should not depart from your mouth, and you must in an undertone read in it day and night, in order that you may take care to do according to all that is written in it; for then you will make your way successful and then you will act wisely.” —Joshua 1:7, 8. หนังสือ กฎหมาย นี้ ไม่ ควร ให้ ขาด จาก ปาก ของ เจ้า และ เจ้า ต้อง อ่าน ออก เสียง เบา ๆ ทั้ง กลางวัน กลางคืน เพื่อ ว่า เจ้า จะ ได้ ทํา ตาม สิ่ง ที่ เขียน ไว้ นั้น ทุก ข้อ ทุก ประการ เพราะ ถ้า เจ้า ทํา อย่าง นั้น เจ้า จะ บรรลุ ผล สําเร็จ และ เจ้า จะ ปฏิบัติ อย่าง สุขุม รอบคอบ.”—ยะโฮซูอะ 1:7, 8, ล. ม. |
The psalmist speaks of a happy man as one whose “delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night.”—Psalm 1:1, 2. ผู้ ประพันธ์ เพลง สรรเสริญ กล่าว ถึง คน ที่ มี ความ สุข ว่า “ความ ยินดี ของ ผู้ นั้น อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา; และ เขา คิด รําพึง อยู่ ใน พระ ธรรม ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.”—บทเพลง สรรเสริญ 1:1, 2. |
At Nahum 1:7, he reads in an undertone that Jehovah “is cognizant of those seeking refuge in him” and protects them like “a stronghold in the day of distress.” ที่ นาฮูม 1:7 เขา อ่าน ว่า พระ ยะโฮวา “ทรง รู้ จัก พวก ที่ เข้า มา พึ่ง อาศัย ใน พระองค์” และ ทรง ปก ป้อง พวก เขา เหมือน ทรง เป็น “สถาน นิรภัย ใน คราว ภัย พิบัติ.” |
The first Psalm describes a truly happy man as one whose “delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night.” เพลง สรรเสริญ บท แรก พรรณนา ถึง คน ที่ มี ความ สุข แท้ ว่า เป็น ผู้ ที่ “ความ ปีติ ยินดี ของ เขา อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา และ เขา อ่าน พระ บัญญัติ ของ พระองค์ ด้วย ออก เสียง แผ่ว เบา ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.” |
But his delight is in the law of Jehovah, and in his law he reads in an undertone day and night.” ความ ยินดี ของ ผู้ นั้น อยู่ ใน พระ บัญญัติ ของ พระ ยะโฮวา และ เขา คิด รําพึง อยู่ ใน พระ ธรรม ของ พระองค์ ทั้ง กลางวัน และ กลางคืน.” |
มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ
ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ undertone ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ
คำที่เกี่ยวข้องของ undertone
คำพ้องความหมาย
อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ
คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม
ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว