odour ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร
ความหมายของคำว่า odour ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ odour ใน ภาษาอังกฤษ
คำว่า odour ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง กลิ่น, กลิ่นของน้ําหอมและเครื่องสําอาง, กลิ่นที่ตั้งใจสูดดม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง
ความหมายของคำว่า odour
กลิ่นnoun (Any smell, whether fragrant or offensive; scent; perfume) It was clearly Gilli, judging by the scorch marks and the odour. มันชัดเจน กิลลี่ รอยไหม้แล้วก็กลิ่นเหม็นนั่น |
กลิ่นของน้ําหอมและเครื่องสําอางnoun |
กลิ่นที่ตั้งใจสูดดมnoun |
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
You shot someone based on a feeling and an odour. คุณยิงใครคนนึงด้วยความรู้สึกกับกลิ่นเนี่ยนะ |
Whiffs of an unpleasant chemical odour met them, and there was a muffled sound of conversation, very rapid and subdued. พยักหน้าตกลง Whiffs ของกลิ่นเคมีที่ไม่พึงประสงค์ได้พบกับพวกเขาและมีความเสียงอยู่ในลําคอของ |
Clearly the answer must depend on what is meant by ‘language’—for all the higher animals certainly communicate with a great variety of signs, such as gestures, odours, calls, cries and songs, and even the dance of the bees. เห็น ได้ ชัด ว่า คํา ตอบ ขึ้น อยู่ กับ ว่า ‘ภาษา’ หมาย ถึง อะไร—เพราะ สัตว์ ชั้น สูง ทั้ง มวล ย่อม สื่อสาร กัน ด้วย สัญลักษณ์ หลาก หลาย รูป แบบ เช่น ท่า ทาง, กลิ่น, เสียง กู่ ร้อง, และ เสียง ร้อง เป็น เพลง, และ กระทั่ง การ เต้น ของ ผึ้ง. |
It was clearly Gilli, judging by the scorch marks and the odour. มันชัดเจน กิลลี่ รอยไหม้แล้วก็กลิ่นเหม็นนั่น |
Nothing's worse than a breath without odour ที่เลวกว่าของไม่มีสิ่งใดกว่ากลิ่น breath without |
มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ
ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ odour ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ
คำที่เกี่ยวข้องของ odour
อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ
คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม
ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว