आम का पेड़ ใน ภาษาฮินดี หมายถึงอะไร
ความหมายของคำว่า आम का पेड़ ใน ภาษาฮินดี คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ आम का पेड़ ใน ภาษาฮินดี
คำว่า आम का पेड़ ใน ภาษาฮินดี หมายถึง ผลมะม่วง, มะม่วง, ต้นมะม่วง, ลูกมะม่วง หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง
ความหมายของคำว่า आम का पेड़
ผลมะม่วง(mango) |
มะม่วง(mango) |
ต้นมะม่วง(mango) |
ลูกมะม่วง(mango) |
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
हर साल, 75 सालों तक, सेब का एक आम पेड़ इतने फल देता है कि उससे 19 किलो वज़न के 20 बक्से भरे जा सकते हैं! แต่ ละ ปี—เป็น เวลา ประมาณ 75 ปี—ต้น แอปเปิล ขนาด ธรรมดา ๆ จะ ให้ ผล มาก พอ ที่ จะ บรรจุ ลัง ได้ 19 ลัง ซึ่ง แต่ ละ ลัง หนัก 20 กิโลกรัม! |
आम के पेड़ से बना एक आकर्षक सूचना पट्ट इमारत की पहचान “यहोवा के साक्षियों का राज्यगृह” के रूप में दे रहा था। ป้าย ที่ ดึงดูด ใจ ทํา จาก ต้น มะม่วง ระบุ อาคาร ว่า เป็น “หอ ประชุม แห่ง พยาน พระ ยะโฮวา.” |
(गिनती 13:21-23) उन्नीसवीं शताब्दी में बाइबल देशों का दौरा करनेवाले एक मुसाफिर ने बताया कि वहाँ अंजीर के पेड़ बहुत आम हैं। (อาฤธโม 13:21-23) กว่า หนึ่ง ร้อย ปี มา แล้ว นัก ท่อง เที่ยว คน หนึ่ง ซึ่ง ไป ยัง ดินแดน ใน คัมภีร์ ไบเบิล ได้ รายงาน ว่า ต้น มะเดื่อ เทศ เป็น ต้น ไม้ ที่ พบ เห็น ทั่ว ไป มาก ที่ สุด ที่ นั่น. |
आम तौर पर यह पेड़ 1,000 मीटर से कम ऊँचाईवाली जगहों में बढ़ता है, जहाँ का औसतन तापमान दस डिग्री सेलसियस से ज़्यादा होता है। โดย ทั่ว ไป แล้ว ต้น มะกอก เทศ เติบโต ใน พื้น ที่ ระดับ ความ สูง ต่ํา กว่า 1,000 เมตร ที่ ซึ่ง อุณหภูมิ โดย เฉลี่ย สูง กว่า 10 องศา เซลเซียส. |
มาเรียนกันเถอะ ภาษาฮินดี
ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ आम का पेड़ ใน ภาษาฮินดี มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาฮินดี
อัปเดตคำของ ภาษาฮินดี
คุณรู้จัก ภาษาฮินดี ไหม
ฮินดีเป็นหนึ่งในสองภาษาราชการของรัฐบาลอินเดียควบคู่ไปกับภาษาอังกฤษ ภาษาฮินดี ซึ่งเขียนด้วยอักษรเทวนาครี ฮินดีเป็นหนึ่งใน 22 ภาษาของสาธารณรัฐอินเดีย ภาษาฮินดูเป็นภาษาที่มีความหลากหลายมากเป็นอันดับสี่ของโลก รองจากจีน สเปน และอังกฤษ